การเห็นอัลกุรอาน

เห็นคัมภีร์กุรอ่าน สำหรับการดูอัลกุรอานนั้นถูกตีความโดยกษัตริย์และผู้พิพากษาและผู้ใดก็ตามที่อาศัยมันด้วยความรู้และสติปัญญา ผู้ใดเห็นว่าอัลกุรอานไม่ได้ถูกเผาหรือล้างแล้วกษัตริย์ผู้พิพากษาหรือนักวิชาการก็ตาย และถ้าสุลต่านเห็นว่าเขาเขียนมันก็แสดงว่าเขามีความรู้และความยุติธรรมและถ้าพ่อค้าเห็นว่าเขาเขียนมันเขาก็มีรายได้และใครก็ตามที่เห็นว่าเขาอ่านอัล – กุรอานในอัลกุรอานหรือดู ที่มันบ่งบอกถึงการแพร่กระจายของความรู้ภูมิปัญญาและความยุติธรรมของเขาในการสร้างและเขาอาจได้รับมรดกและใครก็ตามที่เห็นว่าเขาซื้ออัลกุรอานเขาจะเห็นด้วยกับมันในศาสนาและใครก็ตามที่เห็นว่าเขาเผาสำเนาของ อัลกุรอานบ่งบอกถึงความเสื่อมทรามของศาสนาและความไม่ใส่ใจของเขา และใครก็ตามที่เห็นว่าเขาขายสำเนาก็ขาดความรู้และเป็นที่น่ารังเกียจและอับอาย และใครก็ตามที่เห็นว่าเขากินเอกสารอัลกุรอานแล้วเขาก็จะถูกท่องเป็นจำนวนมาก เขามีชีวิตอยู่เพียงเล็กน้อยหรือผู้พิพากษาเห็นเช่นนั้นเขาก็ติดสินบนในการตัดสินของเขาและใครก็ตามที่เห็นว่าเขาฉีกเอกสารของเขาเขาจะเกียจคร้านในการอธิษฐาน คบหาและใครก็ตามที่เห็นว่าเขาเปิดอัลกุรอานเขาไม่พบว่ามีการเขียนในนั้นเพราะไม่มีสิ่งใดดีและเขาอาจต้องการให้คนอื่นคัดลอกสำเนาให้เขาและบางทีอาจมีคนอื่นรู้ว่าเขามาจากครอบครัวของเขาและ ใครเห็นว่าเขายอมรับสำเนาอัลกุรอานแล้วเขาก็ทำดี และถ้าเขาเห็นว่าเขาชะโงกมันหรือวางมันไว้ใต้หัวของเขาถ้าเขาเป็นหนึ่งในคนดีเขาก็คัดค้านมันและถ้าไม่ใช่เขาก็กระทำในสิ่งที่เขาไม่อนุญาตและใครก็ตามที่เห็นว่าอัลกุรอานของเขามี หายไปแล้วเขาก็ลืมความรู้และอัลกุรอานและใครก็ตามที่เห็นว่าเขาได้คิดอัลกุรอานแล้วเขาก็ปฏิบัติตามคำสั่งหรือรับความไว้วางใจและเป็นผู้ถืออัลกุรอานและมีการกล่าวกันว่า อัลกุรอานได้รับการบันทึกความปลอดภัยและการบำรุงรักษา ความชั่วร้ายและความชั่วร้ายและผู้ใดก็ตามที่เห็นว่า Mushaf ตกจากมือของเขาหรือถูกพรากไปจากเขาและถ้ามันมีงานก็จะถูกแยกออกจากมันและถ้ามันไม่เป็นเช่นนั้นก็จะไม่มีความดีในนั้นและใครก็ตาม เห็นว่าเขาวางอัลกุรอานไว้เบื้องหลังแล้วเขาก็กลายเป็นผู้ริเริ่ม